บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่9
วันศุกร์ที่3มีนาคม2560
เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
(Children with Learning Disabilities)
· เรียกย่อ
ๆ ว่า L.D.
(Learning Disability)
· เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
· ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน
เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความ พิการ
หรือความบกพร่องทางร่างกาย
สาเหตุของ LD
· ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้
(เชื่อมโยงภาพ ตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
· กรรมพันธุ์
1.ด้านการอ่าน (Reading
Disorder)
·
หนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
·
อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด
หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
·
ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน
หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการอ่าน
• อ่านช้า อ่านคำต่อคำ
ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
• อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
• เดาคำเวลาอ่าน
• อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ
อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
• อ่านโดยไม่เน้นคำ
หรือเน้นข้อความบางตอน
• ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
• ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
• เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้
จับใจความสำคัญไม่ได้
2.ด้านการเขียน (Writing Disorder)
· เขียนตัวหนังสือผิด
สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
· เขียนตามการออกเสียง
เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
· เขียนสลับ
เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
• ลากเส้นวนๆ
ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
• เรียงลำดับอักษรผิด เช่น
สถิติ เป็น สติถิ
• เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน
เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
• เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้
แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
• เขียนพยัญชนะ หรือ
ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
• เขียนคำตามตัวสะกด เช่น
เกษตร เป็น กะเสด
• จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
• สะกดคำผิด
โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
• เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
• เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน
ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
• ลบบ่อยๆ
เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
3.
ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
• ตัวเลขผิดลำดับ
• ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
• ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ
ร้อย
• แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
• ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
• นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
• คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
• จำสูตรคูณไม่ได้
• เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
• ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
• ตีโจทย์เลขไม่ออก
• คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
• ไม่เข้าใจเรื่องเวลา
4. หลายๆ ด้านร่วมกัน
อาการที่มักเกิดร่วมกับ LD
• แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
• มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
• เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
• งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
• การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
• สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
• เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
• ทำงานช้า
• การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
• ฟังคำสั่งสับสน
• คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
• ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
• ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
• ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
• ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน
7. ออทิสติก (Autistic)
• หรือ ออทิซึ่ม (Autism)
• เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
• ไม่สามารถเข้าใจคำพูด
ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
• ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
• เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
• ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
"ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว"
ลักษณะของเด็กออทิสติก
• อยู่ในโลกของตนเอง
• ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
• ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
• ไม่ยอมพูด
• เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติกองค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา
ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย
2 ข้อ
– ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
– ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
– ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม
ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
– ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย
1 ข้อ
– มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
– ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
– พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา
เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
– ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
มีพฤติกรรม
ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
– มีความสนใจที่ซ้ำๆ
อย่างผิดปกติ
– มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้
ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
– มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
– สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
พฤติกรมการทำซ้ำ
• นั่งเคาะโต๊ะ
หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
• นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
• วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
• ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
พบความผิดปกติอย่างน้อย
1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
– ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
– การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
– การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
ออทิสติกเทียม
• ปล่อยให้เป็นพี่เลี้ยงดูแลหรืออยู่กับผู้สูงอายุ
• ปล่อยให้ลูกอยู่กับไอแพด
• ดูการ์ตูนในทีวี
Autistic
Savant
• กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual
thinker)
จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
• กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music,
math and memory thinker)
จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking)
ประเมินหลังการเรียนรู้
ประเมินอาจารย์
อาจารยืเตรียมการสอนมาได้ดีมาก
ทำให้การสอนของอาจารยืไม่น่าเบื่อ สนุกทำให้บรรยากาศในห้องน่าเรียนมากขึ้น
ประเมินตนเอง
ตั้งใจเรียนเมื่ออาจารย์ถามสามารถตอบได้
เข้าเรียนตรงเวลาทุกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น